โควิด19 เป็นโรคระบาดที่อยู่กับมนุษย์อย่างยาวนาน หากนับจากวันเริ่มต้น มาจนถึงตอนนี้ก็ย่างเข้าปีที่สองแล้ว ซึ่งการมาถึงของโรคระบาดนี้ได้เปลี่ยนอะไรไปหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ ชุดความคิด และการใช้ชีวิต อย่างไรก็ดีคงมีหลายคนที่สงสัยว่าเทรนด์บริการรับสร้างบ้านหลังวิกฤติโควิดจะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน
1.การเว้นระยะห่าง
สังคมไทยในยุคก่อนโควิด เป็นสังคมที่เน้นการรวมกลุ่มเป็นหลัก และเน้นไปที่การสังสรรค์ เฮฮา แต่เมื่อวิกฤติโควิด-19 ได้เข้ามา ไลฟ์สไตล์อันแสนผ่อนคลายเช่นนี้ก็ได้สิ้นสุดลงไป คนส่วนใหญ่จะเน้นการเว้นระยะห่าง(แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม) การจัดทำห้องนั่งเล่น อาจจมีพาร์ติชั่นกั้นบางๆ ให้ดูเป็นสัดเป็นส่วน นอกจากนี้การก่อสร้างยังเน้นความปลอดโปร่ง โล่ง สบาย เพื่อให้มีแสงแดดและอากาศเข้าได้ง่าย ลดการติดเชื้อ และทำให้แสงยูวีไปช่วยในการฆ่าเชื้อโรค
2.สร้างห้องออกกำลังกาย
ฟิตเนสได้กลายเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับช่วงโควิด-19 ดังนั้นหลายๆ คนที่รักในการออกกำลังกายจึงเริ่มที่จะมุ่งเน้นไปที่การออกกำลังกายในบ้านเป็นหลัก เช่นการสร้างห้องออกกำลังกายโดยเฉพาะสำหรับจัดวางลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน รวมไปถึงห้องที่มีความโล่ง โปร่ง สำหรับยืดกล้ามเนื้อและเล่นโยคะ เป็นต้น ซึ่งสามารถปรึกษาได้จากบริการรับสร้างบ้าน
3.มีพื้นที่สำหรับจัดสวนในบ้านโดยเฉพาะ
การปลูกบ้านในยุคต่อไปของอนาคต จะมีพื้นที่ให้กับต้นไม้โดยเฉพาะ เช่นการจัดทำชั้นวางต้นไม้จากคอนกรีตตั้งแต่ก่อผนัง หรือบางคนอาจจะเลือกทำเป็นชั้นวางแบบไล่ระดับ เพื่อให้เกิดความสวยงามและลงตัวในบริเวณบ้านแบบง่ายๆ เหมาะสมและตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่งสำหรับยุคใหม่ที่เน้นการอยู่กับธรรมชาติอย่างลงตัว แม้แต่คอนโดเองก็ตามที จะมีการจัดพื้นที่สำหรับวางต้นไม้โดยเฉพาะเช่นกัน
4.ทุกคนต้องการให้บ้านเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่อาศัยได้ตลอดเวลา
จากแต่ก่อนที่ทุกคนไม่ได้มุ่งหวังให้บ้านเป็นสถานที่พักใจ จึงไม่เน้นการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ หลังผ่านวิกฤติโควิดไปแล้ว ทุกคนจะเห็นความสำคัญในการจัดตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีการสร้างสรรค์ความงามให้กับบ้านในหลายๆ จุด และลดทอนสิ่งของที่ “รกบ้าน” ออกไป
และนี่ก็คือการเจาะลึกเทรนด์บริการรับสร้างบ้านหลังวิกฤติโควิด-19 จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าการก่อสร้างบ้านหลังจากยุค โควิด19จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่คนธรรมดาเท่านั้นที่ต้องปรับตัว หากแต่กลุ่มผู้รับเหมา สถาปนิกและวิศวกรเองก็ต้องมีการปรับตัวไม่แพ้กัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะใช้ชีวิตร่วมกับโรคระบาดที่ยากจะคาดเดาได้ว่าจะจบลงเมื่อใด